จิตวิทยาการเดาใจคนและการรู้จักมองคน
เข้าใจผู้หญิง
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก... บางอย่างยากที่จะเอ่ยจากปากให้ชายรู้ มีคนชอบกล่าวว่า ผู้หญิงมีหลายหน้า บางเวลาอาจเป็นเทพธิดา แต่บางเวลาอาจกลายเป็นนางมารร้ายขึ้นมา โดยไม่รู้ตัว แม้กระทั่งพระอุมาเทวี บางเวลายังอาจกลายเป็นนางกาลีไป ก็ได้ แต่นั่น ก็เป็นเพียงแค่คำร่ำลือ หรือเรื่องราวที่พูดกันต่อๆ มาเท่านั้น ไม่ได้มีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงใดๆมาพิสูจน์ ขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยจะมีหลักฐานอะไรมาหักล้าง ความเชื่อเหล่านั้นเช่นกัน ตราบใดที่โลกเรายังคงดำรงอยู่ ไม่หยุดหมุน โลกเราก็ยังคงมีความรักระหว่างหนุ่มและสาว แม้ว่าจะน้อยลงทุกวัน เนื่องจากหลายคนเริ่มหันไปรักเพศเดียวกันเพราะเข้าใจกันมากกว่า แต่ความรักระหว่างผู้ชายและผู้หญิงก็ยังคงดำรงอยู่ต่อไป และจำต้องมีความเข้าใจในกันและกันมากขึ้น และมากขึ้น เพราะความรักที่แท้จริงก็คือ การเข้าใจและให้อภัยในความผิดพลาดของกันและกัน รวมทั้งการพยายามปรับตัวเข้าหากันด้วย การเรียนรู้ซึ่งกันและกันจึงเป็นพื้นฐาน ของการใช้ชีวิตคู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้กระทั่งในตำราพิชัยสงครามของซุนวู ยังว่าไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งมาเริ่มเรียนรู้คุณผู้หญิงกันดูบ้างจะดีไหมครับ !! เริ่มจากกำจัดความเข้าใจผิดที่มีต่อกันและกันก่อน...ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง
· ผู้หญิงพอใจอะไรยาก ?
ผู้ชายมักจะชอบพูดถึงผู้หญิงในแง่นี้เสมอๆว่า เข้าใจยาก พอใจอะไรยาก ชอบเปลี่ยนใจง่าย บางคนถึงกับบอกว่า พวกเธอเปลี่ยนใจทุกวินาที วินาทีละหลายร้อยครั้ง ซึ่งน่าจะไม่เป็นจริง ที่จริงแล้ว ผู้หญิงมักจะพอใจอะไรที่ดีกว่า และอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่าเดิม ของคนที่พวกเธอรัก ไม่ว่าจะเป็นสามี หรือลูกๆ เธอจึงดูเหมือนชอบ ขี้บ่น ติโน่น ติงนี่อยู่ตลอดเวลา... โดยเฉพาะหลังจากตกลงปลงใจว่า จะใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายคนนี้ คนที่เธอรัก เคยสังเกตไหมครับว่า ก่อนแต่งงาน ก่อนใช้ชีวิตคู่ ตอนรักกันใหม่ๆนั้น เธอไม่ค่อยติติงเท่าใด ก็เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าจะรักหรือตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตด้วยหรือไม่ แต่พอเธอแน่ใจแล้ว มั่นใจแล้ว เธอก็จะไม่เปลี่ยนใจรัก เธอจึงอยากให้คนที่เธอรักดีขึ้น... ตอนนั้นแหละเหมือนเธอเอาใจยากขึ้น ที่จริงตอนรักกันก็เอาใจยากอยู่แล้ว !! ...เพราะเธอต้องการอะไรที่ดีกว่าที่คุณเสนอ แต่ถ้าคุณเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่เธอ... เธอจะรับโดยดี โดยไม่บ่นว่า ดังนั้น ถ้าคุณผู้ชายคนไหนยังคิดว่าแฟนของคุณพอใจอะไรยาก ก็แสดงว่าสิ่งที่คุณทำให้เธอยังไม่ดีพอ หรือไม่ใช่ที่เธอต้องการเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า เธอเอาใจยากเลย
· ผู้หญิงมักจะมีอารมณ์เพศยาก ?
จริงอยู่ ที่ผู้หญิงเกิดอารมณ์พิศวาสและไปถึงจุดสุดยอดได้ยาก และใช้เวลายาวนานกว่าผู้ชาย แต่ถ้าคุณผู้ชายเข้าใจเธอสักหน่อย คุณสามารถที่จะทำให้เธอมีอารมณ์พิศวาส และสามารถจะตอบสนองต่อคุณ เพื่อที่จะไปยังจุดหมายปลายทางที่ฝันรวมกันเอาไว้ นั่นก็คือ การให้ความรักแก่เธอให้มากๆ ให้เธอรับรู้ว่า คุณรักเธอคนเดียว ปรารถนาเธอคนเดียว และมีเธอคนเดียวเท่านั้นที่คุณอยากจะแสดงความรัก ด้วยการมีสัมพันธ์สวาทกัน นั่นเป็นสิ่งที่สามารถจุดไฟปรารถนาของเธอให้คุโชนขึ้นง่ายที่สุด ผู้หญิงต้องเกิดความรักก่อน จึงจะเกิดอารมณ์เพศ และมีไฟปรารถนาที่จะร่วมรัก ผู้ชาย เมื่อได้ร่วมรักจนสุขสมแล้ว ก็จะรู้สึกผ่อนคลายหายเครียด แต่ผู้หญิง ต้องรู้สึกผ่อนคลายหายเครียดก่อน จึงอยากจะร่วมรัก ถ้าคุณผู้ชายสามารถทำให้เธอหายเครียดด้วยความรักของคุณที่มีต่อเธออารมณ์ปรารถนาของเธอ ก็จะเกิดขึ้น และร่วมรักกับคุณอย่างเป็นธรรมชาติ จนมีความสุขสมร่วมกันครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย
· ผู้หญิงไปถึงจุดสุดยอดได้ยาก !
เป็นความจริงที่ผู้หญิงไปถึงดวงดาวได้ยาก และต้องใช้เวลานานมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้ก็เพราะเธอต้องการเวลาในการค่อยๆเพิ่มอารมณ์เพศสักช่วงระยะหนึ่ง ก่อนที่ร่างกายของเธอจะได้รับการกระตุ้น จนไปถึงจุดสุดยอด ผู้หญิงต้องการกระตุ้นจุดสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการกอด สัมผัสลูบไล้ไปยังส่วนต่างๆ ที่ยังไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ปราการด่านสุดท้าย ที่ผู้ชายหวังจะโจมตี จนเมื่อเธอแสดงอาการว่า อยากให้สัมผัสส่วนนี้ของเธอแล้ว คุณค่อยเริ่มกระตุ้น และการกระตุ้นส่วนสงวนของเธอนั้น ก็ต้องใช้เทคนิคเช่นกัน ถ้าคุณจะใช้มือกระตุ้นให้เคลียเคล้าบริเวณข้างๆ ปากทางก่อน ค่อยไล่ลงมายังกลีบเนื้อที่ปิดปากถ้ำสวรรค์ไว้ แล้วค่อยไปยังปุ่มปมประสาทสัมผัสที่เรียกว่าคลิตอริส... อย่านะ อย่าใช้นิ้วมือคุณกดลงไปทันที เพราะจะทำให้เธอเจ็บจนหมดอารมณ์ที่จะเริงรักกับคุณ คุณต้องค่อยๆใช้นิ้วคุณวนๆ รอบๆ ปุ่มสัมผัสดังกล่าวก่อน จนแน่ใจว่าเธอมีอารมณ์มากแล้ว จึงค่อยๆ เน้นตรงจุดอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขอย้ำนะครับว่า ผู้หญิงนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ชอบอะไรที่สม่ำเสมอ มั่นคงและต่อเนื่อง... รวมทั้งการกระตุ้นให้เธอไปถึงดวงดาวด้วย ผู้หญิง ส่วนใหญ่ไปถึงจุดสุดยอดด้วยท่า "มิชชันนารี" เพราะร่างกายของฝ่ายชาย ที่ทานทับลงไปบนตัวเธอนั้น ทำให้เวลาที่เขาขยับส่วนนั้นของเขาเข้าออกเพื่อการสัมผัสรักกับเธอ ปุ่มคลิตอรัสจะได้รับการเสียดสีกับกระดูกหัวเหน่าของเขาเป็นการกระตุ้น ขณะเดียวกัน ปุ่มดังกล่าวก็จะมีการยืดขึ้นและหดลง ตามจังหวะของการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ที่เธอและเขาร่วมกันแสดงนั้น แล้วจะทำให้เธอไปถึงดวงดาวได้โดยง่าย
· ผู้หญิงต้องการเงินมากกว่าความรัก ?
ผู้ชายหลายราย มักจะมีความรู้สึกนึกคิดเช่นนั้น แต่แท้จริงแล้ว ผู้หญิงหลายคนที่แม้ว่าร่างกายบางส่วนของเธอสามารถจะซื้อหาได้ด้วยเงินตรา แต่เธอก็ยังคงเหลือบางส่วนไว้ให้คนที่เธอรักเสมอ... สงสัยไหมครับ บทสัมภาษณ์ผู้หญิงขายบริการคนหนึ่งบ่งบอกว่า เธอยอมมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบใด แต่เธอไม่ยอมจูบปากอย่างดูดดื่มกับลูกค้าคนใดเลย เธอบอกว่า เธอเก็บจูบที่บริสุทธิ์ของเธอไว้ให้ชายคนที่เธอรักเท่านั้น คนอื่นไม่มีวัน ไม่ว่าจะให้เงินทอง เธอมากน้อยแค่ไหน หรือเธอจะพอใจมากขนาดใด เพราะลูกค้าก็คือลูกค้า ไม่ใช่ชายคนรัก เงิน จึงอาจจะซื้อความรักได้... แต่ไม่ใช่รักแท้ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้รักแท้จากผู้หญิง ต้องเอารักแท้ของคุณไปแลกมา จึงจะได้รักแท้จากเธอ
· ผู้หญิงชอบขี้บ่นจู้จี้จุกจิก
ผู้หญิงจู้จี้และขี้บ่นก็เพราะ คนที่อยู่รอบข้างเธอไม่ได้สนใจในรายละเอียดที่เธออยากจะให้สนใจ เช่น เวลาจะแสดงความรักกัน ถ้าเธอรู้สึกว่า ตัวเองหรือเขาไม่สะอาด เธอก็จะไม่มีอารมณ์ หรืออาจเอ่ยปากบอกให้ทำอย่างโน่นอย่างนี้ก่อน เช่น
· รอเดี๋ยวนะที่รัก ขอไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยมีอะไรกัน
· วันนี้ไม่เอา ไม่ให้ใช้ปากทำ ยังไม่ได้อาบน้ำเลย
· มีเมนส์อยู่ ทำไม่ได้นะ สกปรกจะตาย
· พรุ่งนี้ไม่ได้ หรือคืนนี้ปวดหัว
นั่นก็คงจะเป็นหนังตัวอย่าง ที่บางครั้งผู้ชายคิดว่าเธอปฏิเสธที่จะมีสัมพันธ์สวาทกัน ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้คิดเลย เพียงแต่ขอให้รอก่อน ขอให้สะอาดก่อนเท่านั้นก็พอแล้ว เข้าใจเธอเสียหน่อย รู้จักหัดทำเป็นไม่เห็นเสียบ้าง ไม่ได้ยินเสียบ้าง และหัดไม่โต้ตอบในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เสียบ้าง คุณก็จะเป็นสุภาพบุรุษที่เธออยากจะรัก และร่วมรักด้วยทั้งกายและใจ
· เคล็ดลับการอยู่กับผู้หญิง
กล่าวว่า ผู้หญิงเกิดมาเพื่อแสวงหาความรัก ความอบอุ่น ความมั่นคง และความจริงใจ จากคนที่เธอรัก เธออาจจะรักใครได้ยาก แต่เมื่อเธอแน่ใจในความรักที่เขามีต่อเธอแล้ว เธอก็จะรักเขาตลอดไป ไม่มีวันเปลี่ยนแปร... เพราะนั่นเป็นธาตุแท้ของผู้หญิง แต่เธอชอบจู้จี้ขี้บ่น เอาใจยาก และชอบเปลี่ยนใจเรื่องโน้นเรื่องนี้บ่อยๆ บางครั้งตัดสินใจยาก และโลเลในเรื่องไม่เป็นเรื่อง... ยกเว้นความรักต่อชายคนที่เธอรักเท่านั้น ที่จะคงทนตลอดไป เพราะฉะนั้น ถ้าคุณผู้ชายค้นพบผู้หญิงคนที่คุณคิดจะใช้ชีวิตคู่ด้วยแล้ว และมั่นใจว่านั่นเป็นความรักแท้แล้ว ละก็
" รักเธอให้มากๆ เข้าใจเธอให้น้อยๆ " แล้วคุณก็จะมีความสุข
เข้าใจผู้ชายและผู้หญิง
...ชายและหญิงเมื่อเกิดความรักขึ้นในดวงใจแล้ว เขาและเธอย่อมอยากจะพลีร่างกายเข้าด้วยกันด้วยความพิศวาสที่แสนจะวาบหวามรัญจวนใจและชวนให้เกิดความหลงใหลผูกพันในกันและกันไปอย่างต่อเนื่อง...
แต่บางครั้งความไม่เข้าใจกันก็ต้องเกิด และหลายต่อหลายคู่ต้องแยกทางจากกันไปด้วยความไม่เข้าใจ หรืออาจจะเรียกได้ว่า ไม่พยายามจะเข้าใจกันก็เป็นได้
หลายครั้งเมื่อมีคำถามเกิดขึ้นว่าทำไมหนอคู่ที่รักกันมากมายจี๋จ๋ากันจนหลายคนที่เห็นเกิดความอิจฉาริษยา แรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน ครั้นอยู่นานไปน้ำอ้อยก็กร่อยขม แน่นอนว่า กามารมณ์นั้นเป็นพื้นฐานของชีวิตคู่ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ บทพิศวาสที่เกิดจากใจที่ตรงกัน และมีความสุขสมร่วมกันนั้นเป็นสัมผัสรักอย่างดี เป็นการบอกรักแก่กันและกันที่เรียบง่ายและไม่จำเป็นจะต้องใช้คำพูด แต่อาศัยการกอดรัดสัมผัสทางกายที่แสนจะซาบซึ้ง ถ่ายทอดความรักความเอื้ออาทรแก่กันแทน การจะมีกามารมณ์และบทพิศวาสที่สุขมสมอารมณ์หมาย จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ ที่บางครั้งอาจทำให้เบื่อหน่าย การเรียนรู้ในความต้องการของกันและกัน การช่วยเหลือเกื้อกูลสอดประสานบทพิศวาสแก่กัน การเอาใจเธอมาใส่ใจเราล้วนแล้วแต่เป็นเทคนิคและเคล็ดลับที่บอกต่อๆ กันมา ในการนำเอานาวารักที่พายร่วมกันข้ามนทีสีทันดรไปยังฝั่งฝันที่มุ่งมาดและปรารถนาจะสุขสมร่วมกัน ผู้ชายและผู้หญิงนั้นไม่เหมือนกัน และบางครั้งก็ไม่เข้าใจกันที่จริงแล้วลองถามตัวเองกันดูบ้าง หลายต่อหลายคนยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเลย แล้วจะให้คนอื่นมาเข้าใจได้อย่างไร คนเราเมื่อรักกัน และใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ย่อมจะสามารถพูดจาสนทนาภาษารักและบอกความในใจที่ต้องการต่อกันและกันได้ ไม่น่าจะมีอะไรมาบิดบัง ควรปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของกันและกันในอันที่จะนำมาซึ่งความสุขในการมีชีวิตคู่ คนสองคนที่มาจากต่างถิ่นต่างฐาน ต่างความเชื่อ ต่างการเรียนรู้จะไม่มีทางเข้าใจกันเลย ถ้าไม่รู้จักสนทนาโอภาปราศรัยกันและที่สำคัญควรจะพูดคุยกันด้วยมธุรสวาจาและสร้างสรรค์ ไม่ควรจะต่อว่าต่อขานกัน
เอาล่ะครับ มาลองเข้าใจผู้ชายและผู้หญิง ในรูปแบบที่เป็นและเป็นอยู่ตามความจริงของธรรมชาติ กันดีกว่า…จำไว้ว่า
ผู้หญิงต้องเกิดความรักก่อนจึงจะเกิดอารมณ์และความต้องการทางเพศและในอันที่จะมีอารมณ์ปรารถนาลุกโชนนั้น เธอต้องอยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลาย ไม่เครียด อารมณ์พิศวาสจึงจะเปิดรับการกระตุ้นง่ายๆ และเมื่อเกิดอารมณ์พิศวาส แล้วเธอจึงอยากจะร่วมรัก และมีความสุขไปถึงจุดสุดยอด ผู้ชายส่วนใหญ่แล้วเมื่อเกิดความตึงเครียด ฮอร์โมนเพศชายจะหลั่งออกมามากทำให้อยากกระทำอะไรที่ผ่อนคลาย การอยากจะร่วมรักกับสาวคนรักเป็นความเครียดภายในตัวเขาอย่างหนึ่งที่อยากจะระบายออกมา ในความคิดของพวกเขาแล้ว ตามสภาพจิตใจใต้สำนึกเป็นความรักไม่ใช่เป็นการระบายความใคร่ อย่างที่ผู้หญิงหลายคนเข้าใจ และเมื่อเขาได้ระบายความอึดอัดจากความรักในอกออกไปจนสุขสมแล้ว เขาถึงจะเกิดการผ่อนคลาย หายเครียด จนเกิดนึกรักผู้หญิงคนที่เขามีความสุขด้วยเพิ่มขึ้น ผู้หญิงต้องการเวลาเนิ่นนานกว่าผู้ชายในการเล้าโลมให้เกิดอารมณ์พิศวาส เปรียบผู้หญิงเหมือนเตาไฟฟ้า ซึ่งต้องเสียเวลาวอร์มอัพก่อนที่จะเกิดความร้อนออกมาในขณะที่ผู้ชายเปรียบเสมือนเตาแก๊ส ซึ่งเมื่อเปิดแก๊สจุดไฟ ก็ติดทันทีและให้ความร้อนทันควัน ขณะเดียวกันเมื่อปิดเตาแก๊สไฟก็จะดับทันที ส่วนเตาไฟฟ้ายังต้องการเวลาอีกสักระยะหนึ่งกว่าที่จะดับสนิท แต่ในระหว่างที่กำลังจะดับลงไปนั้นถ้าเปิดเตาไฟฟ้าใหม่ เตาจะร้อนเร็วขึ้นเพราะมีความร้อนหลงเหลืออยู่ พร้อมที่จะทำงานใหม่ ด้วยเหตุนี้เองที่ผู้หญิงจะมีอารมณ์พิศวาสได้ช้ากว่าผู้ชาย และต้องการการเล้าโลมที่เนิ่นนานกว่า แต่เธอสามารถที่จะไปถึงดวงดาว ได้หลายครั้งในการร่วมรักครั้งหนึ่ง ถ้าคู่ของเธอมีน้ำอดน้ำทนเพียงพอ ส่วนผู้ชายนั้นหลังจากสุขสมอารมณ์หมายแล้ว ก็ต้องการเวลาในการพักฟื้นสักระยะหนึ่งก่อน ผู้หญิงอยากจะมีบทรักช่วงเล้าโลมและช่วงเวลาหลังความสุขสมมากกว่า ในขณะที่ผู้ชายจ้องแต่ช่วงที่มีการร่วมรักและมีบทพิศวาสในดินแดนส่วนสงวนของเธอเท่านั้นเป็นส่วนใหญ่ ผู้หญิงเป็นพวกอนุรักษ์นิยมและเมื่อเธอมีความสุขในรูปแบบใดแล้วเธอก็อยากจะให้ทำแต่รูปแบบเดิมๆ ซึ่งน่าเบื่อในความคิดของผู้ชายที่ชอบแสวงหาเทคนิคใหม่ๆ ดังนั้นควรจะมีการปรับปรุงท่วงท่าลีลารักและลีลาพิศวาสเป็นประจำสม่ำเสมอจะได้ไม่น่าเบื่อจนกลายเป็น…ทำการบ้าน ลองนึกดูสิครับว่า เริ่มต้นก็เป็นแบบนั้นและลงท้ายแบบนี้จะทนทำอยู่ได้นานเท่าใด สิ่งที่ฝังหัวอยู่ในผู้ชายเสมอมาในทุกยุคทุกสมัยก็คืออยากให้ผู้หญิงเป็นของเขาเป็นคนแรก ในขณะที่ผู้หญิงอยากให้เขาเป็นของเธอเป็นคนสุดท้าย
ในการร่วมรักกันนั้น สิ่งที่ผู้หญิงต้องการคือ "คุณภาพ" สิ่งที่ผู้ชายต้องการคือ "ปริมาณ" ผู้ชาย สนใจใน "ขนาด" ของตนเองว่าจะมีขนาใดหญ่เพียงพอหรือไม่จะให้ความสุขกับผู้หญิงของเขาด้วยความ "ใหญ่" ของเขาได้หรือไม่ ผู้หญิงไม่ได้ต้องการความ "ใหญ่" แต่ต้องการ "ความรัก" มากกว่า นักเพศศาสตร์ทั้งหลายบอกเสมอๆ ว่า ขนาดนั้นไม่สำคัญเท่าเทคนิคของการร่วมรักเลย และมักจะมีคำพูดที่กล่าวกันต่อๆ มาเสมอว่า…ขนาดของเรือนั้นมันไม่สำคัญหรอก สำคัญตรงที่ว่ากัปตันจะสามารถนำเรือรักเรือสำราญของเขาผ่านพ้นปากอ่าวเจ้าพระยาไปโดยไม่ล่มปากอ่าวเสียก่อนเท่านั้นแหละ เพราะปัญหาใหญ่ของชายชาตรีก็คือ หลั่งเร็วหรือนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ เวลาที่เริ่มปฏิบัติการ พอเริ่มลงมือ ผู้ชายก็คิดถึงจุดหมายปลายทางคือ จุดสุดยอดแล้ว ในขณะที่ผู้หญิงคิดถึงว่า ทำอย่างไรหนอความสุขสมจะยืนยาว ชั้นสวรรค์จึงสั้นนักสำหรับเขาและเธอทั้งสอง และเขาก็ไม่สามารถจูงเธอขึ้นสวรรค์ ได้สักทีด้วยอวัยวะส่วนนั้นของเขา
สิทธิทางเพศศึกษาจึงบอกว่า ทั้งชายและหญิงมีสิทธิที่จะสุขสมด้วยตนเองเมื่อเกิดอารมณ์ที่ปรารถนาทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นโสด แต่งงานแล้วหรือเป็นม่ายก็ตาม การไปถึงจุดสุดยอดด้วยตนเองจึงเป็นสิทธิทางเพศชั้นพื้นฐาน ของมนุษยชาติด้วยประการฉะนี้
ผู้หญิงหลายคนเมื่อเข้าสู่วัยทองแทนที่จะหมดอารมณ์ทางเพศกลับมีความต้องการทางเพศมากขึ้นจนกลัวใจ ขอบอกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นไปได้ และถ้าหนุ่มวัยทองของเธอมีความต้องการตรงกันทุกอย่างก็จะราบรื่นและสุขสม แต่ถ้าหนุ่มวัยทองข้างกายเป็นประเภทหมดสมรรถภาพทางเพศหรือหมดอารมณ์พิศวาสไปแล้วล่ะก็ ทางออกที่ดีที่สุดคือการสุขสมด้วยตนเองรวมทั้งจินตนาการถึงความหลังที่ซาบซึ้งในอดีต ก็จะทำให้สามารถผ่านวันเวลาไปได้โดยไม่ลำบาก ผู้ชายวัยทองนั้น อวัยวะส่วนนั้นจะไม่ทำงาน แม้ว่าจะมีอารมณ์และความต้องการทางเพศ จำต้องได้รับการกระตุ้นโดยตรงต่ออวัยวะแห่งความเป็นชาย ไม่ว่าจะกระตุ้นด้วยมือหรือทำรักด้วยปาก และคุณผู้หญิงคู่ชีวิตทั้งหลายจำไว้ว่าถ้าเขามีอารมณ์แต่อวัยวะไม่ขยายพอจะปฏิบัติการได้แล้ว การใช้มือช่วยกระตุ้นให้เขาขึ้นสวรรค์ ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้เขาสมหวัง
12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสีในที่ทำงาน...เกิดขึ้นแล้ว
...เห็นกันทุกวัน เพราะทำงานที่เดียวกัน คงมีบ้างนะที่มองไปมองมา สายตาก็จ้องมองกัน รู้สึกเสียวซ่านหัวใจในออฟฟิศหรือสำนักงานนี่แหละท่าน เป็นบ่อเกิดสร้างคู่รักมานักต่อนักแล้ว...
เมอร์ลินเลยได้ที นำเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในสำนักงานมาโซ้ยซะเลย นัยว่ายังไม่ทันมีใครมายุก็ขอจุดประทัด ด้วยความปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายให้ผู้คนหวั่นไหวเล่น ด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจใน 12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสีในที่ทำงาน...เกิดขึ้นแล้ว (12 Signs of an office flirtation) บอกว่า ถ้าฝ่ายหญิงถูกจีบ มักแสดงอาการดีใจจนเนื้อเต้น และเก็บไว้ไม่ ค่อยอยู่นักหรอก แหม... ปูนนี้แล้ว ยังอุตส่าห์มีคนมาติดพัน มันใช่ย่อยซะที่ไหน แล้วงี้จะไม่ให้ ระริกระรี้ หน้าบานเป็นดอกทานตะวันได้ไงจ๊ะ ความรักกับผู้หญิงน่ะ เป็นของคู่กันอยู่แล้ว แต่อย่าเจอกรณี มีลูกกวนตัว มีผัวกวนตีน ก็แล้วกัน เดี๋ยวหัวใจฟกช้ำดำเขียวไปซะก่อน เมอร์ลินงี้อยากให้ดอกรักได้มีโอกาสฟูมฟักให้บานนานๆ อย่ารักง่ายหน่ายเร็วนักเลย ว่าแล้วก็เลี้ยวกลับมาเข้าเรื่องสัญญาณแต่ไม่ใช่สัญญา ที่ฝ่ายหญิงแสดงออก เมื่ออยากให้ใครมารักหรือตกหลุมรักโป๊ะเชะ มีตั้งแต่
1. ชอบเล่นผมของตัวเอง ในลักษณะของคนใจลอยบ่อยๆ หรือไม่งั้น ถ้ารู้ว่าคนที่เธอสนใจกำลังเดินผ่านมา หล่อนจะจัดแจงแต่งผมให้ได้รูปได้ทรง ยังไงซะ ผู้หญิงย่อมรักสวยรักงามวันยังค่ำ แล้ว " ความสวยความงาม" ก็ดันเป็นเสน่ห์ดึ๋งดั๋งเสียด้วยนะ ไปถามดูเถิดว่า ผู้ชายร้อยทั้งร้อยชอบคนงามหน้าตาจิ้มลิ้มหรือเปล่า ? หากยิ่งเซ็กซี่ด้วย ก็ยิ่งน่าเสียวไส้
2. จะอารมณ์ดีม้าก มาก ถ้าสืบได้ว่า ฝ่ายที่ตามจีบเธอยังเป็นโสด อย่างน้อย หนูก็ยังอยากเป็นเบอร์ 1 ไม่อยากกินน้ำใต้ศอกของใคร แถมเผลอๆ เดี๋ยวได้น้ำตาตกในละก้อ ขืนเจอโชคสองชั้นอย่างงี้ อย่าเจอกันเลยดีกว่า ใครว่า เลือกแฟนก็เหมือนซื้อลอตเตอรี่ก็ใช่ แต่โอกาสถูกเจ๋งเป๋งน้อยกว่ากันเยอะ เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกหนู
3. ใช้ภาษาท่าทางส่ออาการว่าอยากมีรักอย่างเปิดเผย เช่น ถ้าชอบก็เชื้อเชิญอีกฝ่ายด้วยการจับมือถือแขน ทำตัว สนิทสนม หรือถ้ากล้ามาก บางคนเล่นใส่เสื้อคอเว้า หวังโชว์ เนินอกก็มี เรื่องโชว์ ขอให้บอกเหอะ เพราะกลัวไม่ได้โชว์ มากกว่า... ใช่ไหมล้า
4. มักเดินผ่านหวานใจให้เห็นกันทุกวี่ทุกวัน ถ้าไม่ชอบแล้วจะพยายามขนาดนี้รึ
5. ถ้าคุยกันต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ ก็ใช้วิธีส่งอีเมล์กันเหมือนในเรื่องบริดเจท โจนส์ไดอารี่ นั่นแหละ เห็นนั่งหน้าจอคอมฯทั้งวันทั้งคืน บางทีไม่ใช่ขยันทำงานอะไรหรอก แต่พะวงเรื่องอื่นน่ะสิไม่ว่า
6. ถ้าว่างพร้อมกัน ก็ทานข้าวด้วยกัน แล้วอย่าหาว่ามัวแต่จีบกันอยู่นั่น...ไม่ได้นะ เพราะทั้งคู่กำลังเสริมสร้างความเข้าใจ ให้สอดคล้องต่างหาก คนอื่นก็อย่าอิจฉาตาร้อนกันนักเลย เป็นคนขี้อิจฉาไม่น่ารักนะเจ้าคะ
7. ก็ในเมื่อสนิท จะไปไหนมาไหน ก็มักไปด้วยกันหากโอกาสอำนวย อันเรื่องไปไหนมาไหนกับใครๆ เนี่ยนะ แม้แต่เพื่อนก็ยังไปไหนไปกัน ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เฉพาะคนรักกันซะหน่อย ถ้าจะจับผิดก็ควรแยกแยะซะก่อน
8. อยากรู้เรื่องของอีกฝ่ายชนิดทุกซอกทุกมุม เผื่อไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานหรือเดตา เบส ก่อนจะคบหากันให้ลึกซึ้งต่อไปก็ได้นี่ ดีซะอีกจะได้วัดกันไปเลยว่า เมื่อคบกันไปนานๆ ไอ้ที่เขาเคยพูดงั้นงี้มันจริงหรือว่าโกหกทั้งเพ
9. ต่างฝ่ายต่างชอบพูดถึงกัน ให้บรรดาซี้ซั้ว เอ้ย เพื่อนซี้ฟัง
10. บางคนพอมีความรักในที่ทำงานจะฮึดขยันขันแข็งขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ แต่บางคู่กลับตรงข้าม ยิ่งรักยิ่ง
กัดก็มี เรื่องพรรณนี้ มันอยู่ที่ลมเพลมพัด วันไหนดีก็ดีใจหาย วันไหนร้าย แม่มดเจอกับอสูรกายไงงั้น
11. โต๊ะทำงานเริ่มเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เลอะเทอะอีกต่อไป บอกเป็นนัยๆ นะว่า อีกหน่อยเป็นแม่บ้านแสนประเสริฐได้
12. มีขนมนมเนยที่โต๊ะทำงาน ไว้คอยรับแขกสำคัญ ถ้าไม่ใช่หวานใจฉัน อย่ามาหยิบนะเฟ้ย รู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ